วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ประวัติศาสตร์รถข้างในมณฑลประเทศไทย

รถดำรงฐานะเทคตุ่ยโลทวิของศตวรรษเนื้อที่ 20 เข้าไปมาหาจวบจวนบ้านเมืองประเทศไทยดำรงฐานะกาลที่หนึ่งเมื่อไหร่นั้น ยังเปล่าตระหนักชัดแจ้ง รู้เรื่องว่าร้ายสมาชิกเนื้อที่บัญชาการรถเข้าไปมาหาชดใช้ภายในบ้านเมืองประเทศไทยสมาชิกที่หนึ่งดำรงฐานะชาววิเทศ เปล่าตระหนักว่าร้ายดำรงฐานะยี่ห้อใด ประกอบด้วยเรื่องประกอบโปร่งแสงชนิดขยายความไว้ภายในสาสนสมเด็จ สิ่งดำรงฐานะลายพระหัตถ์ท่อถ้อยของพระบรมศานุเครือญาติสองท่านถือเอาว่า สมเด็จพระผู้เป็นเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าชายกรมพระหย่อนยานริศรานุเทียบติเครือญาติ ตัวนักออกแบบผู้คบหาสมาคมรังสรรค์เทียบเบญยุบบพิตร กับสมเด็จพระผู้เป็นเจ้าบรมวงศ์เธอ กนมพระยาดำรงราชานุภาพ บิดาในเหตุการณ์ในอดีตประเทศไทย โดยลายพระหัตถ์พอชันษา พุทธศักราช 2458 เหมาะสมเด็จฯ เจ้าชายกรมพระหย่อนยานริศรานุเทียบติเครือญาติ ไหว้เสนอสมเด็จพระผู้เป็นเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพว่าร้าย รถคันที่หนึ่งภายในบ้านเมืองประเทศไทยทรวดทรงละม้ายคล้ายคลึงรถยนต์ตำท้องถนน แหย่ยางหนึ่งพันกิโลกรัม ประกอบด้วยประทุนดำรงฐานะปะรำ ประกอบด้วยแท่นสองบริเวณ ชดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปิโตรเลียม โคมไฟหน้าประเภทละม้ายคล้ายคลึงเตาฟู่ ดุจรถยนต์สมัยแรกๆ โดยมากเครื่องยนต์กลไกประกอบด้วยศักดาพอด้วยวิ่งบนบานศาลกล่าวพื้นที่ราบ เสียแต่ว่าเปล่าพอเนื้อที่จะรุ่งตะพานหาได้ ข้อเสียดังที่กล่าวมาแล้วแล้วจึงแล้วจึงทำให้การชดใช้งานฉลองประกอบด้วยขีดจำกัด ดังที่กรุงเทพฯระยะเวลานั้นชดใช้การขนย้ายทางน้ำดำรงฐานะแนว ตะพานกระโดดคลองแล้วจึงต้องกรีธาสูงเพื่อให้นาเวศผลุบหาได้ เสียแต่ว่ากลับมาดำรงฐานะปัญหาเอ้ภายในการชดใช้รถ หรือรถราเนื้อที่ประกอบด้วยแหย่
หลังจากชี้นำรถเข้าไปมาหาภายในสยามหาได้เปล่านมนาน ชาววิเทศผู้นั้นก็จำหน่ายทาบให้แก่ แม่ทัพเจ้าพระยาเทวดาอำนาจมนตรี (เจิม ประกายชูพ่วงพี) ซึ่งควรค่าหาได้รับการนิยมชมชอบว่าร้ายดำรงฐานะสมาชิกประเทศไทยสมาชิกที่หนึ่งเนื้อที่ก่อเกิดสมัยรถภายในบ้านเมืองประเทศไทย เจ้าพระยาเทวดาอำนาจมนตรีดำรงฐานะสมาชิกศิระสมัยใหม่ ศรัทธาภายในตอนเครื่องยนต์กลไกกลไก ทั้งใฝ่ฟังรู้เรื่องภายในประดิษฐกรรมสดๆ พร้อมด้วยชอบอกชอบใจเนื้อที่จะดำรงฐานะเจ้าตำรับเครื่องยนต์กลไกกลไกผิดแผกแตกต่างเรี่ยม ภายในช่วงนี้เนื้อที่ประกอบด้วยการซื้อขาย
ภายในลายพระหัตถ์ เจ้าชายกรมพระหย่อนยานริศรานุเทียบติเครือญาติ รักษาสาธยายว่าร้าย ภายในเดิมเนื้อที่ซื้อหารถยนต์คันดังที่กล่าวมาแล้วมาหา เจ้าพระยาเทวดาอำนาจมนตรีเปล่าสามารถเคลื่อนหาได้ เกี่ยวกับเกียแข็งกร้าว เข้าไปลำบากลำบน ต้องส่งให้กนิษฐาปลายถือเอาว่า พระยาอนุทูตผู้กล่าว (เข็มสอยผ้า ประกายชูพ่วงพี) แต่งส่งให้ พระยาอนุทูตผู้กล่าว ประกอบด้วยพระชนมายุสิงสู่ระหว่างชันษา พุทธศักราช 2413-2482 พร้อมด้วยประกอบด้วยศิระภายในตอนเครื่องยนต์กลไกกลไก พร้อมด้วยดำรงฐานะสมาชิกประเทศไทยสมาชิกที่หนึ่งเนื้อที่สามารถโพกหัวทุ่นลอยมอเตอร์หาได้ ดำรงฐานะสมาชิกประเทศไทยสมาชิกที่หนึ่งเนื้อที่ไปรับจ้างจัดการภายในบ้านเมืองอังกฤษ แล้วจึงดำรงฐานะสมาชิกประเทศไทยสมาชิกที่หนึ่งเนื้อที่สามารถเคลื่อนรถภายในบ้านเมืองประเทศไทยเนื่องด้วย
พระยาอนุทูตผู้กล่าว สามารถเรียนการเคลื่อนรถคันดังที่กล่าวมาแล้วหาได้เหล่าปรูด พร้อมด้วยยังหาได้ออกอากาศส่งให้กับผู้อื่นอีกเนื่องด้วย รถของเจ้าพระยาสรุอำนาจมนตรี วิ่งชดใช้งานฉลองไล่ตามท้องถนนภายในบูรีกรุงเทพฯสิงสู่นมนานต่างๆชันษา ต่อจากนั้นภายในชันษา พุทธศักราช 2471 กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รักษาเข้มพิพิธภัณฑสถานด้วยเมืองกรุงรุ่ง พร้อมด้วยรักษาบิณฑบาตส่งให้ชี้นำรถคันดังที่กล่าวมาแล้วมาหาก่อตั้งบ่งเนื่องด้วย แม่ทัพเจ้าพระยาเทวดาอำนาจมนตรี ก็ยอมแพ้อนุเผ่าพันธุ์เนื่องด้วยกระแสความสมัครใจ โดยไหว้เสนอว่าร้าย พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหลวงราชรองเรียวรุ่งเรืองฤทธา รักษาชี้นำรถยนต์ไปฟื้นฟูเนื้อที่หมวดลหุโทษ กรมพระยาดำรงราชานุภาพรักษาตระหนักต่อจากนั้นหลังจากว่าร้าย พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหลวงราชรองเรียวรุ่งเรืองฤทธา หาได้สิ้นพระชนม์เสียก่อนเนื้อที่จะฟื้นฟูแล้วเสร็จ พร้อมด้วยรถยนต์ก็ถูกต้องทิ้งไว้โดยเปล่าประกอบด้วยใครพยาบาล กระเป๋าแห้งพอหาได้อยู่ไปเนื้อที่หมวดลหุโทษ พร้อมด้วยสอบถามรถยนต์คันดังที่กล่าวมาแล้ว เจ้าหน้าที่ก็ทำท่าฉงนใจ พร้อมด้วยอมยิ้มเหล่าสลดใจ จบชี้นำอยู่ไปยังหัวมุมห้องหับ ณ เนื้อที่นั้น ถือเอาว่าหมวดโลหะเนื้อที่เหลือจากน้ำมือผู้จำหน่ายเศษเหล็ก พร้อมด้วยโน่นถือเอาว่าความหายนะของรถคันที่หนึ่งภายในบ้านเมืองประเทศไทย จากชิ้นเล็กๆธูลีไปสู่เศษสนิม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น